นักทำอาหารมือใหม่ควรรู้ วิธีทำอาหารแบบต่าง ๆ ที่ให้ผลลัพธ์ต่างกัน
ก่อนที่คุณจะทำอาหาร มีวิธีการปรุงอาหารที่สำคัญที่คุณต้องรู้ และทำความเข้าใจให้กระจ่างเสียก่อน โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ ได้แก่… การปรุงด้วยความร้อนแห้งและการปรุงด้วยความร้อนชื้น วิธีการปรุงอาหารด้วยความร้อนแห้งนั้น ไม่จำเป็นต้องใช้น้ำ ส่วนวิธีการปรุงด้วยความร้อนชื้น จะต้องใช้ของเหลวเข้ามามีส่วนร่วมในการปรุงอาหาร ดังที่เรานำความรู้ดี ๆ มานำเสนอ ดังนี้…
10 วิธีการปรุงอาหารที่ให้ผลลัพธ์ต่างกัน
1. การย่าง การย่าง เป็นวิธีการปรุงอาหารโดยใช้ความร้อนให้ส่งผ่านไปยังอาหารโดยตรง อาหารจะสัมผัสกับเปลวไฟ และแหล่งความร้อนมาจากถ่านที่อยู่ใต้ตะแกรง โดยคุณสามารถย่างอาหารบนเปลวไฟหรือย่างบนกระทะย่างก็ได้ ซึ่งมักจะมีเส้นไหม้เกรียมปรากฏอยู่ เป็นลวดลายสวยงาม
2. นึ่ง อาหารจะถูกวางในอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำอาหาร ซึ่งเป็นการใช้ไอน้ำปรุงอาหารนั่นเอง แต่น้ำหรือของเหลวที่ใช้สำหรับนึ่งไม่ได้สัมผัสกับตัวอาหารโดยตรง
3. การเซียร์ Searing หรือ Pan searing คือ การทำให้อาหารมีสีสันภายนอกเป็นสีน้ำตาล ผ่านการใช้ความร้อนสูงเพื่อให้ภายนอกมีลักษณะเป็นสีคาราเมล สวยงาม ในขณะที่ด้านในไม่จะสุก เทคนิคนี้จะใช้กับการทอดปลาหรือเนื้อสัตว์บางประเภทที่สามารถกินดิบได้
4. การต้ม คืออาหารที่ปรุงในน้ำ ที่มีความร้อนสูงถึง 100 องศาเซลเซียส ซึ่งกำลังอยู่ในขั้นเดือด ด้วยวิธีนี้อาหารจะถูกแช่ในน้ำจนหมดและต้มจนนิ่มนุ่ม
5. ผัด เป็นเทคนิคการทำอาหารที่พบได้บ่อยที่สุด อาหารจะถูกปรุงด้วยน้ำมันหรือไขมันเพียงเล็กน้อยจนสุก โดยปกติจะทำอาหารให้สุกในกระทะ และปรุงอาหารด้วยความร้อนปานกลาง ไปจนถึงสูง
6. การลวก เป็นการนำอาหารไปแช่ในน้ำที่มีอุณหภูมิ 71 – 82 องศาเซลเซียส อาหารจะต้องคงอยู่ในน้ำจนกว่าจะสุกเต็มที่ แล้วรีบตักขึ้นมาพักไว้เพื่อชะลอการสุก
7. การอบ นำอาหารเข้าไปปรุงในเตาอบโดยใช้ความร้อนแห้ง เทคนิคการทำอาหารประเภทนี้ ใช้สำหรับอาหารที่ได้รับความนิยม เช่น ขนมปัง, เค้ก, คุกกี้, มัฟฟิน, ลาซานญ่า และอื่น ๆ
8. สตูว์ การตุ๋นหรือการทำสตูว์นั้นคล้ายกับการเคี่ยว คือ ส่วนผสมจะนำไปผัดหรือผสมแบบแห้งก่อน หลังจากนั้นจึงเทน้ำลงไปแล้วจึงปรุงต่อในรูปแบบของเหลว
9. ทอด (Deep-frying) การปรุงอาหารด้วยน้ำมันหรือไขมันร้อน ๆ อาหารปรุงสุกจนสีเปลี่ยนเป็นสีทอง มันกรอบนอกและด้านในสุก
10. ทอดน้ำตื้น (Shallow-frying) น้ำมันจะสูงถึงกระทะเพียงแค่ครึ่งนิ้วเท่านั้น และอาหารจะต้องปรุงจากด้านใดด้านหนึ่งก่อน หลังจากนั้นจึงพลิกกลับอีกด้านหนึ่งเพื่อให้สุกอย่างสมบูรณ์
เห็นไหมว่าการทำอาหารมีเทคนิคการทำที่ล้ำลึกอีกมาก ดังนั้นการทำอาหารให้อร่อย ไม่ใช่เพียงแค่การทำอาหารให้สุกเท่านั้น แต่ยังต้องดึงรสชาติของอาหารในแต่ล่ะแบบออกมาให้ได้มากที่สุดอีกด้วย ดังนั้นผู้ที่อยากมีฝีมือในการทำอาหารระดับสูงจำเป็นต้องฝึกซ้อมฝีมือไว้ให้มากในทุก ๆ วัน